Skip to content
การเทรดด้วยรูปแบบ Price Pattern พื้นฐานสำหรับมือใหม่
- รูปแบบกราฟราคาที่เกิดการเรียงตัวเป็นรูปร่างต่างๆ หรือเรียกอีกชื่อคือ Chat Pattern
- การกำหนดกราฟราคาให้เป็นรูปแบบของต่างๆ ช่วยให้จดจำและคาดการณ์ทิศทางของกราฟราคาได้ง่ายขึ้น
- Price Pattern จะช่วยบอกสภาวะตลาด เช่น ราคาใกล้จะกลับตัว ราคาใกล้จะทะลุแนวต้านแนวรับ และอื่นๆ
Price Pattern มีกี่ประเภท
- Price Pattern มี 3 ประเภท คือ Continuation Patterns Reversal Patterns และ Bilateral Patterns
- Continuation Patterns (รูปแบบกราฟราคาที่ให้สัญญาณไปต่อ)
- Reversal Patterns (รูปแบบกราฟราคาที่ให้สัญญาณกลับตัว)
- Bilateral Patterns (รูปแบบกราฟราคาที่กำลังเลือกทิศทาง)
รูปแบบ Price Pattern
Continuation Pattern (รูปแบบกราฟราคาที่ให้สัญญาณไปต่อ)
- Bullish Flag Pattern และ Bearish Flag Pattern
- Bullish Pennant Pattern และ Bearish Pennant Pattern
- Bullish Rectangle Pattern และ Bearish Rectangle Pattern
- Falling Wedge Pattern และ Rising Wedge Pattern
Reversal Pattern (รูปแบบกราฟราคาที่ให้สัญญาณกลับตัว)
- Double Bottom Pattern และ Double Top Pattern
- Triple Bottom Pattern และ Triple Top Pattern
- Head and Shoulders Pattern และ Inverse Head and Shoulders Pattern
- Falling Wedge Pattern และ Rising Wedge Pattern
- Bullish Quasimodo Pattern และ Bearish Quasimodo Pattern
Bilateral Pattern (รูปแบบกราฟราคาที่กำลังเลือกทิศทาง)
- Ascending Triangle Pattern
- Descending Triangle Pattern
- Symmetrical Triangle Pattern
ภาพตัวอย่างกราฟจริงของ Price Pattern
ภาพตัวอย่างกราฟจริงของรูปแบบ Continuation Pattern (รูปแบบกราฟที่ให้สัญญาณไปต่อ)
- Bullish Flag Pattern และ Bearish Flag Pattern
- ในทิศทางขาขึ้นหากมีการพักตัวของราคาในรูปแบบ Flag เป็นทิศทางขาลง ราคามีโอกาสจะไปต่อในทิศทางขาขึ้น
- ในทิศทางขาลงหากมีการพักตัวของราคาในรูปแบบ Flag เป็นทิศทางขาขึ้น ราคามีโอกาสจะไปต่อในทิศทางขาลง
- Bullish Pennant Pattern และ Bearish Pennant Pattern
- ในทิศทางขาขึ้นหากมีการพักตัวของราคาในรูปแบบ Pennant ราคามีโอกาสจะไปต่อในทิศทางขาขึ้น
- ในทิศทางขาลงหากมีการพักตัวของราคาในรูปแบบ Pennant ราคามีโอกาสจะไปต่อในทิศทางขาลง
- Bullish Rectangle Pattern และ Bearish Rectangle Pattern
- ในทิศทางขาขึ้นหากมีการพักตัวของราคาในรูปแบบ Rectangle ราคามีโอกาสจะไปต่อในทิศทางขาขึ้น
- ในทิศทางขาลงหากมีการพักตัวของราคาในรูปแบบ Rectangle ราคามีโอกาสจะไปต่อในทิศทางขาลง
- Falling Wedge Pattern และ Rising Wedge Pattern
- ในทิศทางขาขึ้นหากมีการพักตัวของราคาในรูปแบบ Falling Wedge ราคามีโอกาสจะไปต่อในทิศทางขาขึ้น
- ในทิศทางขาลงหากมีการพักตัวของราคาในรูปแบบ Rising Wedge ราคามีโอกาสจะไปต่อในทิศทางขาลง
ภาพตัวอย่างกราฟจริงของรูปแบบ Reversal Pattern (รูปแบบกราฟที่ให้สัญญาณกลับตัว)
- Double Bottom Pattern และ Double Top Pattern
- ในทิศทางขาลงหากราคาสร้างรูปแบบ Double Bottom ราคามีโอกาสจะกลับตัวเป็นทิศทางขาขึ้น
- ในทิศทางขาขึ้นหากราคาสร้างรูปแบบ Double Top ราคามีโอกาสจะกลับตัวเป็นทิศทางขาลง
- Triple Bottom Pattern และ Triple Top Pattern
- ในทิศทางขาลงหากราคาสร้างรูปแบบ Triple Bottom ราคามีโอกาสจะกลับตัวเป็นทิศทางขาขึ้น
- ในทิศทางขาขึ้นหากราคาสร้างรูปแบบ Triple Top ราคามีโอกาสจะกลับตัวเป็นทิศทางขาลง
- Head and Shoulders Pattern (H&S) และ Inverse Head and Shoulders Pattern (H&S)
- ในทิศทางขาลงหากราคาสร้างรูปแบบ Inverse H&S ราคามีโอกาสจะกลับตัวเป็นทิศทางขาขึ้น
- ในทิศทางขาขึ้นหากราคาสร้างรูปแบบ H&S ราคามีโอกาสจะกลับตัวเป็นทิศทางขาลง
- Falling Wedge Pattern และ Rising Wedge Pattern
- ในทิศทางขาลงหากมีการพักตัวของราคาในรูปแบบ Falling Wedge ราคามีโอกาสจะกลับตัวเป็นทิศทางขาขึ้น
- ในทิศทางขาขึ้นหากมีการพักตัวของราคาในรูปแบบ Rising Wedge ราคามีโอกาสจะกลับตัวเป็นทิศทางขาลง
- Bullish Quasimodo Pattern และ Bearish Quasimodo Pattern
- ในทิศทางขาลงหากราคาสร้างรูปแบบ Bullish Quasimodo ราคามีโอกาสจะกลับตัวเป็นทิศทางขาขึ้น
- ในทิศทางขาขึ้นหากราคาสร้างรูปแบบ Bearish Quasimodo ราคามีโอกาสจะกลับตัวเป็นทิศทางขาลง
ภาพตัวอย่างกราฟจริงของรูปแบบ Bilateral Pattern (รูปแบบกราฟที่กำลังเลือกทิศทาง)
- Ascending Triangle Pattern
- หากราคาสร้างรูปแบบ Ascending Triangle ราคามีโอกาสไปได้ทั้งสองฝั่ง ทั้งขาขึ้น และ ขาลง
- Descending Triangle Pattern
- หากราคาสร้างรูปแบบ Descending Triangle ราคามีโอกาสไปได้ทั้งสองฝั่ง ทั้งขาขึ้น และ ขาลง
- Symmetrical Triangle Pattern
- หากราคาสร้างรูปแบบ Symmetrical Triangle ราคามีโอกาสไปได้ทั้งสองฝั่ง ทั้งขาขึ้น และ ขาลง
การเทรดด้วยรูปแบบ Price Pattern
วิธีเข้าเทรด
- Price Pattern ทุกรูปแบบจะมีเส้น Neckline เป็นเส้นกำหนดการทะลุของราคา
- หากราคาทะลุเส้น Neckline และปิดนอกเหนือเส้น ให้ทำการเปิดออเดอร์ทันที
- จุดเก็บกำไร (Take Profit) แนะนำให้ใช้ระยะ 1.5-2 เท่า ของระยะจุดตัดขาดทุน (Stop Loss)
ตัวอย่างการเทรดบนกราฟจริง
- ตัวอย่างการเข้าเทรดที่ 1 เทรดบนกรอบเวลา(Timeframe) 15 นาที
- ราคาเป็นทิศทางขาขึ้น เกิดการพักตัวของราคาเป็นรูปแบบ Bullish Flag
- ราคาทะลุเส้น Neckline เปิดออเดอร์ทันที กำหนดกำไร 2 เท่า ของระยะ Stop Loss
- ตัวอย่างการเข้าเทรดที่ 2 เทรดบนกรอบเวลา(Timeframe) 15 นาที
- ราคาใน H4 เป็นขาลง ราคาใน M15 เป็นขาขึ้น เกิดสัญญาณกลับตัวจากการเกิดรูปแบบ H&S
- ราคาปิดต่ำกว่าเส้น Neckline เข้าออเดอร์ทันที กำไร 2 เท่า ของระยะ Stop Loss
สิ่งที่ต้องรู้/คำแนะนำ
- การเกิดรูปแบบ Price Pattern อย่างเดียวไม่การันตี ว่าราคาจะไปตามรูปแบบ Price Pattern เสมอไป
- ดูทิศทางของกรอบเวลาใหญ่ๆ (Higher Timeframe) เช่น D1 H4 H1 แล้วมองหา Price Pattern รูปแบบที่มีเงื่อนไขและทิศทางเดียวกันกับกรอบเวลาใหญ่ๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสชนะในการเทรด
- แนะนำให้ใช้กับกรอบเวลา (Timeframe) 15 นาที ขึ้นไป กราฟจะมีความเสถียรและแม่นยำขึ้น
- การเทรดด้วยรูปแบบ Price Pattern สามารถใช้ได้กับทุกตลาด