สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน สำหรับในบทความนี้พวกเราก็จะมาพูดถึงเรื่อง Price Action กันอีกเช่นเคยครับ กับการใช้ Price Gaps (ช่องว่างของราคา) ซึ่งแน่นอนว่าช่วงที่ราคาข้ามระหว่างกันนั้นเกิด Gaps สำหรับนักเทรดก็คงจะได้เห็นรูปร่างของกราฟแปลก ๆ ดังกล่าวขึ้นมาบ้าง พวกเราจะมาเจาะลึกเรียนรู้เกี่ยวกับ Price Gaps ในการเทรดแบบ Price Action ครับ นอกจากเรื่องดังกล่าวแล้ว พวกเรายังมีวิธีการใช้งานที่เหมาะมากสำหรับมืออาชีพครับ
Price Gaps คืออะไร?
ความหมายที่ตรงตัวเลยก็คือ ช่องว่างของราคาที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาปิด หรือ เปิดตลาด รวมไปถึงกรอบเวลาของการซื้อขาย มีการข้ามระดับที่แตกต่างกัน
ถ้าอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ก็จะยกตัวอย่างให้ดูคือ ราคาของวันอังคารอยู่ที่ 200 บาท แต่วันพุธนั้นตลาดเปิดที่ราคา 250 บาท แสดงว่ามี Gap หรือ ช่องว่างของราคาอยู่ที่ 50 บาทระหว่างทั้ง 2 ช่วงเวลานั่นเองครับ
รูปที่ 1:แสดงถึงตัวอย่างการเกิด Price Gaps บนกราฟราคา
Price Gaps มีแบบไหนบ้าง?
การเกิดช่องว่างของราคาหรือ Price Gaps นั้น จะประกอบไปด้วยกันทั้งหมด 4 รูปแบบของราคา ซึ่งจะสามารถอธิบายลักษณะได้ดังต่อไปนี้ครับ
Common Gap
- เกิดขึ้นบ่อยในตลาดที่มีสภาพคล่องสูง มักไม่ส่งผลกระทบมากนัก
- ราคาจะมีแนวโน้มกลับมาเติมเต็มช่องว่าง (Fill the Gap) ได้ในเวลาอันสั้น
Breakaway Gap
- เกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแนวโน้มของตลาด
- เกิดหลังจากการสะสมกำลังในช่วงของราคาที่เคลื่อนไหวในกรอบแคบ แล้วราคาเกิด Breakout หรือ Breakaway ออกจากกรอบที่เคลื่อนไหวเดิม
Runaway Gap
- เกิดขึ้นในช่วงที่แนวโน้มมีความแข็งแกร่ง กรณีนี้มักบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว
- ราคาอาจยังคงวิ่งต่อไปอีกโดยไม่ย้อนกลับมาปิด Gap ในทันที
Exhaustion Gap
- เป็นช่องว่างที่เกิดขึ้นในช่วงท้ายของแนวโน้ม
- ซึ่งบ่งชี้ว่าแนวโน้มอาจใกล้สิ้นสุด และเป็นสัญญาณว่าความแข็งแกร่งของแนวโน้มกำลังลดลง
รูปที่ 2:แสดงถึง Price Gaps บนกราฟราคาในรูปแบบต่าง ๆ
7 วิธีการใช้ Price Gaps ในการเทรดแบบมืออาชีพ
รู้หรือไม่ว่า เมื่อกราฟราคามีการเกิด Price Gaps แล้วนั้น สามารถใช้งานในการเทรดได้ด้วย ซึ่งมีหลายวิธีมาก ๆ โดยจะขึ้นอยู่กับประเภทของ Gap รวมไปถึงสภาพของตลาดในขณะนั้น โดยพวกเราได้แบ่งวิธีการใช้งานออกมาให้เข้าใจง่าย ๆ แล้วทั้งหมด 7 วิธีดังต่อไปนี้ครับ
1. กลยุทธ์การเติมเต็ม Gap (Gap Fill Strategy)
- Common Gaps มักจะถูกเติมเต็ม (Fill the Gap) ในเวลาอันสั้น
- ราคาที่เปิดตลาดห่างจากราคาปิดก่อนหน้า
- มักจะมีแนวโน้มย้อนกลับไปเติมเต็มช่องว่างนี้ หรือ ราคาวิ่งกลับไปยังราคานี้
ตัวอย่างการเข้าใช้กลยุทธ์นี้
- รอให้ราคาเปิดตลาดด้วยการเกิด Gap และเข้าเทรดในทิศทางตรงข้ามกับทิศทางของ Gap
- โดยคาดหวังว่าราคาจะกลับมาเติมเต็มช่องว่างนั้น
2. การเทรดตามแนวโน้ม (Trend Following Using Gaps)
- Breakaway Gaps เกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านสำคัญออกไป
- เมื่อทะลุแนวต้านไปแล้ว ก็มีแนวโน้มที่ตลาดกำลังบอกว่าจะแข็งแกร่งและไปต่อในทิศทางนั้น
ตัวอย่างการเข้าใช้กลยุทธ์นี้
- ให้เข้าเทรดในทิศทางของ Gap หลังจากที่ราคายืนยันแล้วว่าทะลุแนวรับหรือแนวต้าน
- ใช้ยืนยันแล้วว่า การเข้าซื้อ-ขาย มีปริมาณที่สูงขึ้นจนแนวต้านรับไว้ไม่อยู่
3. การเทรดจุดกลับตัว (Reversal Trade Using Gaps)
- Exhaustion Gaps มักบ่งบอกถึงจุดสิ้นสุดของแนวโน้มและอาจเป็นสัญญาณของการกลับตัว
- เมื่อเกิด Gap ในช่วงท้ายของแนวโน้มราคาที่วิ่งขึ้นหรือวิ่งลงมาเป็นระยะเวลานาน
ตัวอย่างการเข้าใช้กลยุทธ์นี้
- กลยุทธ์นี้จะเป้นสัญญาณเตือนว่ากราฟกำลังปรับตัว หลังจากที่ขึ้น หรือ ลงมาเยอะ การเกิด Exhaustion Gap
- เมื่อเกิด Exhaustion Gap ขึ้นอาจจะต้องพิจารณาแล้วว่า อาจจะกลับตัวเป็นขาลง
รูปที่ 3:แสดงถึง Price Gaps ที่สามารถนำมากำหนดเป็นแนวรับ แนวต้านสำคัญได้
4. การใช้ Gaps เป็นแนวรับและแนวต้าน (Support and Resistance)
- ตัวของ Gaps นั้น มักจะสร้างแนวรับ กับ แนวต้านที่แข็งแรง โดยราคาจะวิ่งไปที่จุดขอบของ Gap ก่อนจะพบว่า ราคานั้นวิ่งกลับ หรือ เด้งกลับไป รวมไปถึงวิ่งผ่านลงไป จุดนี้เป็นตัวตัดสิน
ตัวอย่างการเข้าใช้กลยุทธ์นี้
- ใช้ขอบล่างหรือขอบบนของ Gap เป็นจุดเข้าเทรด
5. การใช้ Gaps ร่วมกับปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)
- จำนวนปริมาณการซื้อขายนั้น บอกได้ถึงความแข็งแกร่งของราคา นักเทรดจะใช้จุดนี้เพื่อยืนยันว่าจะเทรดในฝั่งไหน
ตัวอย่างการเข้าใช้กลยุทธ์นี้
- เข้าเทรดในทิศทางของ Gap ที่มีปริมาณการซื้อขายมากขึ้น จะได้เปรียบมากกว่า
6. การเทรดข่าวสารและเหตุการณ์ (News-Driven Gaps)
- Price Gaps มักเกิดขึ้นเมื่อมีข่าวสำคัญหรือเหตุการณ์ ที่มีผลกระทบต่อตลาด
ตัวอย่างการเข้าใช้กลยุทธ์นี้
- เข้าเทรดในทิศทางของ Gap เทรดตามแนวโน้มของตัวเลขข่าวจะได้เปรียบมากกว่า แต่ในจุดนี้ก็ต้องอาศัยประสบการณ์ด้านการเทรดมาพอสมควร
7. การใช้ Gaps ร่วมกับการวาง Stop-Loss และ Take-Profit
- สิ่งที่เห็นชัดเจนเมื่อราคาเกิด Gap ก็จะบ่งบอกถึงแนวรับ กับ แนวต้านที่สำคัญ
- บอกถึงจุดเข้าเทรด
- บอกถึงจุดยอมรับกำไร
- บอกถึงจุดยอมขาดทุน
ตัวอย่างการเข้าใช้กลยุทธ์นี้
- นักเทรดสามารถใช้จุดที่เกิด Gap เข้าเทรด หรือ กำหนดเป็น Stop Loss หรือ Take Profit ได้
รูปที่ 4:แสดงถึง Price Gaps บนกราฟราคาของ BTCUSD
Price Gaps มีข้อเสีย หรือ ต้องระวังอะไรบ้าง?
จากที่ได้เห็นกลยุทธ์ของการเทรดโดยใช้ Price Gaps แล้วดูเหมือนว่าจะเข้าใจง่าย แต่ต้องบอกเลยว่าพบข้อเสีย กับ ข้อควรระวังมากมายดังนี้
- การเกิดสัญญาณหลอก
- การเกิด Gap นั้นจะไม่ได้บอกทิศทางทุกครั้ง
- นักเทรดก็จะต้องใช้เครื่องมืออื่น ๆ ช่วยในการยืนยันด้วย
- Price Gaps กับ การตีความไม่เป็น
- มีความเสี่ยงมาก เพราะถ้าตีความไม่เป็น จะไม่สามารถใช้งานได้
นี่คือข้อเสียใหญ่ กับ ข้อควรระวังที่บอกได้ถึง การใช้ Price Gaps ครับ แต่ถ้าหากว่านักเทรดเองมีความเข้าใจ ก็สามารถตัดสินใจในการเข้าเทรด และ สร้างกำไรได้อย่างรวดเร็วในช่วงเวลาอันสั้นครับ
รูปที่ 4:แสดงถึงข้อควรระวังของการใช้เทคนิคเทรด Price Gaps
สรุป
การมองกราฟราคาออกตั้งแต่ก่อนเทรด ถือได้ว่าเป็นเรื่องได้เปรียบมากสำหรับนักเทรด การเทรดด้วยเทคนิค Price Gaps นั้นจะเห็นได้ว่ามีกลยุทธ์มากมายที่ทำให้เข้าใจการเคลื่อนไหวของตลาด ไม่ว่าจะเป็น การวางแผน, การยืนยันแนวโน้ม รวมไปถึงการมองหาจุดกลับตัว อย่างไรก็ตามการวิเคราะห์ร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ รวมไปถึงแนวโน้มของตลาดก็จะช่วยให้เพิ่มความแม่นยำ และมั่นใจในการเข้าเทรดมากขึ้นนั่นเองครับ
Credit: Basics of Economics 4 – Gap | ศูนย์ช่วยเหลือ | AscendEX