ตลาดหุ้นไทยได้รับความนิยมไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ยิ่งในปัจจุบันนี้วัยที่เริ่มทำงานก็มองหา Passive income หรือ รายได้เสริมทางอื่นมากขึ้น สำหรับเทรดเดอร์ที่กำลังมองหากลยุทธ์ หรือ เทคนิคการเทรดที่สามารถทำกำไรอย่างได้เปรียบ รวมไปถึงการเข้าเทรดตามเทคนิคในบทความนี้พวกเราก็ขอแนะนำเลยครับกับ 3 รูปแบบ Price Action ที่สามารถทำกำไรในตลาดหุ้นไทยได้ โดยจะเป็นเทคนิคที่ใช้กันทั่วโลก พร้อมกับตัวอย่างในการเข้าเทรดที่จะทำให้คุณนั้นเข้าใจง่าย ซึ่งจะมีรูปแบบใดบ้างนั้นติดตามได้กับเนื้อหาที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ครับ
Price Action กลับตัว PIN BAR
ก่อนอื่นเลยครับ นักเทรดจะต้องตั้งค่ากราฟให้เป็นรูปแบบของแท่งเทียน ถึงจะสามารถมองเห็น และตีความ Price Action ได้
- Pin Bar คือแท่งเทียนที่มี ไส้ยาว ในทิศทางหนึ่ง มีตัวแท่งเทียนสั้นๆ จะแสดงถึงการกลับตัวของราคา
- เมื่อเกิด Pin Bar ในบริเวณที่มีความสำคัญ เช่น แนวรับ หรือ แนวต้าน จะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของการกลับตัวของราคาในทิศทางตรงข้าม
รูปที่ 1:อธิบายถึง ความหมายของ Price Action Pin Bar และ การใช้งาน
รูปแบบที่พบเจอ และ ตัวอย่างการใช้งาน
- พบเจอได้ในรูปแบบขาขึ้น เรียกว่า Pin Bar Bullish
- จะมีไส้เทียนยาวอยู่ด้านล่าง แสดงว่าแรงขายในช่วงแรกนั้นมีมาก
- แต่ทว่าราคากลับมาปิดที่จุดสูงสุดของวัน แสดงถึงการกลับตัวขึ้น
- หากเกิดขึ้นที่ แนวรับ หรือระดับที่ราคามักจะมีการกลับตัว
- เช่น ราคาในหุ้น BBL (Bangkok Bank) ที่เคยลงไปทดสอบแนวรับแล้วเกิด Pin Bar ขาขึ้น
- การเทรดในทิศทางขาขึ้นจะมีความน่าจะเป็นสูง
- พบเจอได้ในรูปแบบขาขึ้น เรียกว่า Pin Bar Bearish
- จะมีไส้เทียนยาวอยู่ด้านบน แสดงถึงว่าในช่วงแรกนั้นมีแรงซื้อมาก
- แต่ทว่าตัวราคากลับมาปิดที่จุดต่ำสุดของวัน นั่นแสดงถึงการกลับตัวลงนั่นเอง
- หากเกิดขึ้นที่ แนวรับ หรือระดับที่ราคามักจะมีการกลับตัว
- หากเกิดขึ้นที่ แนวต้าน
- เช่น หุ้น PTT ที่มีการทดสอบระดับราคาเดิมที่เคยทำจุดสูงสุดในอดีต และเกิด Pin Bar ขาลง
- สามารถเข้าเทรดในทิศทางขาลงได้
รูปที่ 2:อธิบายถึง ตัวอย่างของกราฟหุ้น AOT ที่มีหลายจุดเป็น Pin bar
ตัวอย่างการใช้งานเพิ่มเติมของ Pin Bar
- หากหุ้น AOT ( Airports of Thailand) ทดสอบแนวต้านที่ 70 บาท
- เกิด Pin Bar ขาลง ราคาปิดต่ำกว่าราคาปิดของแท่งเทียนก่อนหน้านี้
- จะเป็นสัญญาณให้เทรด ขาย หรือ Short โดยสามารถตั้งเป้าหมายที่แนวรับถัดไปที่ 67 บาท
Inside Bar สะสมเตรียม Breakout
- Inside Bar คือรูปแบบที่เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนในช่วงหนึ่งอยู่ภายในขอบเขตของแท่งเทียนก่อนหน้า
- ซึ่งแสดงถึงช่วงเวลาที่ตลาดกำลังสะสมพลังก่อนที่จะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่
- ไม่ว่าจะเป็น Breakout หรือ Breakdown ไปในทิศทางขาขึ้นหรือขาลงนั่นเอง
รูปที่ 3:อธิบายถึง ตัวอย่างของ Inside Bar เงื่อนไขการเทรด การใช้งานเทคนิคนี้
รูปแบบที่พบเจอ และ ตัวอย่างการใช้งาน
- การพบเจอ Inside Bar จะพบเจอแท่งเทียนที่มีช่วงราคาสูงสุด และต่ำสุด เทียบกันคล้ายกับ Side Way
- รูปแบบนี้มักจะเกิดขึ้นหลังจากมีการเคลื่อนไหวที่รุนแรง หรือ กำลังปรับฐานราคา
- หาก Inside Bar เกิดขึ้นที่ระดับ แนวรับ จะเรียกว่า Breakout ขาขึ้น
- เช่น หุ้น PTT หรือ SET Index และราคาทะลุขอบบนของ Inside Bar ขึ้นไป ก็สามารถเข้าซื้อได้ทันที
- หาก Inside Bar เกิดขึ้นที่ระดับ แนวต้าน จะเรียกว่า Breakout ขาลง หรือ Breakdown
- ราคาทะลุขอบล่างของ Inside Bar ลงมา นักเทรดสามารถ ขาย หรือ Short หุ้นนั้นๆ ได้
ตัวอย่างการใช้งานเพิ่มเติมของ Inside Bar
- หุ้น SCC (Siam Cement) เกิด Inside Bar ที่ระดับ 400 บาท
- ราคาทะลุขอบบนของ Inside Bar ขึ้นไปที่ 405 บาท โดยมีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น
- นี่คือสัญญาณ Breakout ขาขึ้น
- นักเทรดสามารถเข้าเทรดที่ 405 บาท และตั้งเป้าหมายกำไรที่ 420 บาท หรือจุดสูงสุดถัดไป
รูปที่ 4:อธิบายถึง ตัวอย่างกราฟหุ้น SCC กับ การเกิด Inside Bar
การใช้เส้นแนวโน้ม หรือ Trend Line
- เส้นแนวโน้มขาขึ้น
- เป็นเส้นเฉียงขึ้นไปทางขวา แสดงถึงแนวโน้มของราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น
- บ่งบอกว่าตลาดมีแนวโน้มขาขึ้น (Bullish Trend)
- เส้นแนวโน้มขาลง
- เป็นเส้นเฉียงลงไปทางขวา แสดงถึงแนวโน้มของราคาที่ปรับตัวที่ลดลง
- บ่งบอกว่าตลาดมีแนวโน้มขาลง (Bearish Trend)
รูปที่ 5:อธิบายถึง Trend Line ของกราฟราคา พร้อมตัวอย่าง บอกความหมายถึงเงื่อนไขการเข้าเทรด
รูปแบบที่พบเจอ และ ตัวอย่างการใช้งาน
- Uptrend Line
- เมื่อราคาย่อตัวลงมาใกล้เส้นแนวโน้มในช่วงขาขึ้น อาจพิจารณาเข้า Buy
- หุ้น PTTGC หากราคาย่อลงมาใกล้เส้น Trendline ขาขึ้นที่ลากผ่านจุดต่ำสุด ก็อาจพิจารณาเข้า Buy
- Downtrend Line
- หากราคาปรับขึ้นไปแตะเส้นแนวโน้มขาลงแล้วไม่สามารถทะลุขึ้นได้ ก็อาจเป็นจุดในการเข้า Sell
- หุ้น MINT หากราคาขึ้นไปทดสอบเส้นแนวโน้มขาลงที่ระดับ 35 บาท และไม่สามารถทะลุขึ้นไปได้ ก็อาจพิจารณาเข้า Sell
คลิป
สำหรับคลิปวีดีโอที่เพิ่มเติมให้ในวันนี้น่าสนใจมากครับ เพราะอธิบายถึง “เหตุผลที่เราไม่ควรเชื่อแท่งเทียน Price Action” ซึ่งนั่นก็มีประเด็นย้อนแย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสัญญาณหลอกที่นักเทรดพึงระวังว่า บางครั้งเทคนิค Pirce Action ไม่สามารถใข้งานได้ % ครับ
สรุป
กลยุทธ์ Price Action เรียกได้ว่าเทคนิคที่ได้รับความนิยมสูงมากในหมู่นักเทรด ซึ่งจะทำให้ตีความกราฟราคาได้อย่างง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องพึ่งพา Indicators สำหรับตลาดหุ้นไทยก็เช่นเดียวกัน การดูลักษณะราคาเมื่อกราฟเกิด Pin Bar ก็มีโอกาสที่จะกลับตัวสูง รวมไปถึงการ Breakout ของราคา ก็จะทำให้แนวโน้มในการเทรดที่นักเทรดตีความได้ ได้เปรียบในการเทรดมากขึ้นนั่นเองครับ สุดท้ายนี้ก็อย่าลืมที่จะต้องกำหนดกำไร หรือ ขาดทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยง และ สร้างกำไรได้อย่างยั่งยืนครับ
MD
รู้หรือไม่ว่า Price Action ก็สามารถใช้งานกับตลาดหุ้นไทยได้ด้วย แน่นอนเลยว่ากลยุทธ์ขั้นพื้นฐานที่นักเทรดทุกคนต้องรู้คือการตีความกราฟให้เป็น และในบทความนี้ก็บอกเคล็ดลับนั้นเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
Credit
Inside Bar Trading Strategy | PriceAction.com