3 รูปแบบ Price Action ในการเทรด Forex สไตล์เซียน

การเทรด Forex เป็นการเทรดที่มีหลายกลยุทธ์ในการเข้าเทรด แต่สำหรับการใช้งาน Price Action แล้วไม่อยากให้ใช้งานในรูปแบบที่ซับซ้อนมากเกินไป สำหรับในบทความนี้พวกเราจึงได้รวบรวม 3 รูปแบบการตีความพฤติกรรมราคา หรือ ที่เราเรียกว่า Price Action นั่นเองครับ ซึ่งจะเหมาะกับการเทรด Forex ในรูปแบบเซียน หรือ นักเทรดมืออาชีพเลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น กลยุทธ์แบบ Scalping หรือ Day Trade ก็สามารถนำไปปรับใช้งานได้ครับ ซึ่งจะมีรูปแบบใดที่น่าสนใจ พร้อมทั้งวิธีการใช้งาน การตีความอย่างไร ติดตามได้ในบทความนี้ครับ

รูปแบบ Pin Bar แนวโน้มชัดเจน

  • มีไส้เทียนที่ยาวออกมาเยอะกว่าตัวเนื้อเทียน
  • หากไส้เทียนด้านบนเยอะกว่าเนื้อเทียน จะบ่งบอกถึงสัญญากลับตัวลง เรียกว่า Bullish Pin Bar
  • หากไส้เทียนด้านล่างเยอะกว่าเนื้อเทียน จะบ่งบอกถึงสัญญากลับตัวขึ้น เรียกว่า Bearish Pin Bar

เคล็ดลับการเลือก Pin Bar กับการเทรด Forex

  • เลือก Pin Bar ที่มีไส้เทียนยาวกว่าเนื้อเทียน ซึ่งบ่งบอกถึงว่าแรงซื้อ-ขายกำลังกลับตัวอย่างรุนแรง
  • ใช้ Pin Bar ที่เกิดในช่วงจุดสำคัญ อย่างเช่นจุดแนวรับ-แนวต้าน
  • เลือก Pin Bar ที่มีแนวโน้มชัดเจน พอจะคาดการณ์ได้ว่าแนวโน้มกำลังไปขาขึ้นหรือลง

รูปที่ 1:แสดงถึงรูปแบบ Price Action Pin Bar

ยกตัวอย่างการเทรด Forex

  • เลือกการเทรดแบบใช้ Bullish Pin Bar ในจุดแนวรับในคู่เงิน EUR/USD
  • ทำการวิเคราะห์แนวรับ โดยสมมุติว่าแนวรับอยู่ที่ราคา 1.1000
  • จากนั้นรอการเกิดของ Pin Bar ที่แนวรับ ซึ่งหากราคาลงมาใกล้แนวรับที่เราเลือกไว้ ก็จะเห็นการเกิดของ Bullish Pin Bar ขึ้น
  • โดยลักษณะของไส้เทียนด้านล่างยาวกว่าเนื้อเทียนด้านบน
  • สะท้อนให้เห็นว่าฝั่งผู้ซื้อนั้นมีกำลังมากขึ้น และราคามีแนวโน้มที่จะกลับตัวไปที่ขาขึ้น
  • พร้อมกับเปรียบเทียบกับแท่งเทียนถัดไป ซึ่งควรจะมีแนวโน้มไปทิศทางเดียวกัน หากยืนยันแล้วก็ทำการเข้าซื้อที่ราคาประมาณ 1.1010
  • ควรตั้งจุด SL ให้ต่ำกว่าปลายไส้เทียนและตั้ง TP ให้อยู่ในแนวต้านถัดไป เช่น SLที่ 1.0980, TP ที่ 1.1060
  • ซึ่งหากราคาพุ่งขึ้นไปตามที่คาดไว้และแตะ TP ที่ 1.1060 เราก็จะได้กำไรประมาณ 50 pips แต่หากขึ้นไม่ถึงและราคามาแตะ SLที่ 1.0980 เราก็จะขาดทุนประมาณ 30 pips นั่นเอง

รูปที่ 2:แสดงถึงรูปแบบ Price Action Pin Bar ใน EUR/USD

รูปแบบ Inside Bar ย่อรอสัญญาณ

  • เกิดจากการที่แท่งเทียนถัดไปมีขนาดใกล้เคียงกับแท่งเทียนก่อนหน้าจะเรียกว่า Mother Bar
  • มักจะเกิดในช่วงที่ราคากำลังพักตัว และจะเกิดการกลับตัวของราคาตามนั่นเอง
  • สะท้อนให้เห็นว่านักเทรดจะต้องเตรียมตัวและวางแผนกับการกลับตัวของราคาที่รุนแรง

ประเภทของ Inside Bar

  • Bullish Inside Bar
    • คือแท่งเทียนที่อยู่ในแนวรับและมีขนาดใกล้เคียงกับแท่งก่อนหน้า ซึ่งจะเป็นช่วงที่ราคาจะทะลุขึ้นสู่แนวโน้มขาขึ้น
  • Bearish Inside Bar
    • คือแท่งเทียนที่อยู่ในแนวต้านและมีขนาดใกล้เคียงกับแท่งก่อนหน้า ซึ่งจะเป็นช่วงที่ราคากลับสู่แนวโน้มขาลง

รูปที่ 3:แสดงถึงรูปแบบ Price Action Inside Bar ใน EUR/USD และตัวอย่าง

ยกตัวอย่างการเทรด Forex

  • เข้าเทรด Inside Bar ของคู่เงิน EUR/USD โดยใช้กรอบเวลา H1 (1 ชั่วโมง) พร้อมกับมีแนวรับอยู่ที่ 1.1000 และแนวต้านอยู่ที่ 1.1000
  • ซึ่งราคาก็ได้ทดสอบแนวรับที่ 1.1000 และเกิด Inside Bar ขึ้นในกรอบเวลาเดียวกันกับแท่งก่อนหน้า จึงทำให้เห็นว่าราคากำลังจะมีการกลับตัวจากขาลง สู่ขาขึ้น
  • โดยทำการซื้อเมื่อราคาทะลุขึ้นแนวรับและเลยกรอบบนของ Inside Bar เท่ากับ 1.1015
  • ตั้งจุด SL บริเวณกรอบล่างสุดของ Inside Bar เท่ากับ 1.0990 และตั้ง TP ในระดับของแนวต้านถัดไป เท่ากับ 1.1100
  • ถ้าหากราคาขึ้นไปแตะ TP กำไรอยู่ที่ประมาณ 85 pips แต่หากราคาลงเลย SL จะขาดทุนอยู่ 25 pips

รูปแบบ Engulfing Pattern กลืนกิน กลับตัว

  • เป็นลักษณะของสองแท่งเทียนสีเขียวและสีแดงมีขนาดกินกัน ซึ่งมักเกิดในช่วงแนวรับและแนวต้าน
  • โดยมักเกิดสองลักษณะคือ Bullish Engulfing Pattern และ Bearish Engulfing
  • Bullish Engulfing Pattern จะมีรูปแบบแท่งเทียนเขียวหรือ Bullish ขนาดใหญ่กว่าแท่งเทียนแดง หรือ Bearish สะท้อนว่าจะเกิดการกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น.
  • Bearish Engulfing Pattern จะเป็นรูปแบบของแท่งเทียนแดงมีขนาดใหญ่กว่าแท่งสีเขียว ซึ่งบ่งบอกถึงการกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง.

รูปที่ 4:แสดงถึงรูปแบบ Price Action Engulfing Pattern แบบแข็งแรง และ ไม่แข็งแรง

ยกตัวอย่างการเทรด Forex

  • สมมติว่าใช้ Engulfing Pattern ในคู่เงิน EUR/USD กรอบเวลา H1 (1 ชั่วโมง) แนวรับอยู่ที่ 1.1000 แนวต้านอยู่ที่ 1.1100
  • โดยราคานั้นได้ลงมาถึงแนวรับที่ 1.1000 พร้อมกับเกิด Bullish Engulfing ขึ้น
  • เพื่อการันตีว่าจะเกิดการกลับตัวขึ้น ก็ควรรอให้ราคาทะลุจุดสูงสุดของแท่งเทียนที่สองเสียก่อน
  • หากราคาทะลุ 1.1015 ก็สามารถเปิดออเดอร์ซื้อได้ โดยตั้ง SL อยู่ที่บริเวณจุดต่ำสุดของแท่งเทียนที่สอง
  • เช่นถ้าจุดต่ำสุดของแท่งเทียนที่สองอยู่ที่ 1.0990 ก็ตั้ง SL ที่ 1.0980 และตั้ง TP ในแนวต้านถัดไป เท่ากับ 1.1100
  • ถ้าหากราคาขึ้นแตะ TP ก็จะได้กำไรประมาณ 85 pips แต่หากราคาลงมาแตะ SL ก็จะขาดทุนประมาณ 25 pips

รูปที่ 4:แสดงถึงรูปแบบ Price Action Engulfing Pattern ในกราฟราคา

คลิป

สำหรับในคลิปนี้เป็นตัวอย่างของการแนะนำ Price Action ที่จะทำให้เห็นภาพมากขึ้นเกี่ยวกับการนำไปปรับกลยุทธ์ของการเทรด ซึ่งนักเทรดแต่ละคนย่อมมีเทคนิคเป็นของตนเองอยู่แล้ว แน่นอนเลยว่าเป็นการสอนที่เข้าใจง่าย และ สามารถนำไปพัฒนาระบบเทรดของตัวเองได้ครับ

สรุป

การอ่าน Price Action ได้ หรือ การตีความหมายจากกราฟได้ ไม่ได้แปลว่านักเทรดจะสามารถเอาชนะตลาดได้ 100% ครับ ยิ่งไปกว่านั้นในตลาด Forex ค่อนข้างมีการผันผวนสูง อันตราย เสี่ยงต่อการล้างพอร์ตถ้าไม่มีการจัดการความเสี่ยง ดังนั้นเรื่องนี้พวกเราเน้นย้ำอยู่เสมอก็คือ การมีวินัยในการเทรด การมีเป้าหมายในการสร้างกำไร ซึ่งแน่นอนว่าความยั่งยืนจะดีกว่าการรวยแบบวูบวาบเสมอ และนี่ก็คือ 3 รูปแบบ Price Action ที่มืออาชีพในตีความอ่านกราฟ เทรดแบบเซียน มืออาชีพ เชื่อเลยว่าเป็นการตีความที่ไม่ซับซ้อนและนำไปปรับใช้กับระบบการเทรดได้

Credit:

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *